ซิมง
เดอ ลา ลูแบร์
พระราชประวัติ
ซีมง
เดอ ลา ลูแบร์ เป็นราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับไทย โดยเดินทางมาที่กรุงศรีอยุธยาพร้อมกับเจ้าพระยาโกษาธิบดี
(ปาน) และทหารของฝรั่งเศสประมาณ600 คน
ลา
ลูแบร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทูตฝรั่งเศสร่วมกับ กล๊อด เซเบอเร็ต
ดูว์ บูเล (Claude Céberet du Boullay) เดินทางมาอยุธยาเพื่อเจรจาเรื่องศาสนาและการค้าของฝรั่งเศสในอาณาจักรอยุธยาเมื่อ
พ.ศ. 2230 ในการเจรจานั้นอยุธยาไม่สู้จักยินยอมรับข้อเสนอของฝรั่งเศส
ทำให้เสียเวลาในการเจรจาหลายสัปดาห์
ในที่สุดฝ่ายไทยก็ยินยอมรับข้อเสนอตามความประสงค์ของฝรั่งเศสและทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาการค้าที่เมืองลพบุรีเมื่อวันที่
11 ธันวาคม
นอกจากจะเป็นหัวหน้าคณะทูตจากฝรั่งเศสแล้ว
ลา ลูแบร์ ยังได้รับคำสั่งให้สังเกตเรื่องราวต่าง ๆ
เกี่ยวกับอาณาจักรอยุธยาและบันทึกข้อสังเกตทั้งหลายเหล่านั้นกลับไปรายงานให้ราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่
14 ได้รับทราบด้วย จดหมายเหตุเหล่านี้ได้กลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าต่อแวดวงวิชาประวัติศาสตร์ไทยสมัยอยุธยา
เพราะกล่าวถึงชีวิตความเป็นอยู่ สังคม ประเพณี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
หลายสิ่งหลายอย่างของคนในสมัยกรุงศรีอยุธยา
จึงนับได้ว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร
พระราชกรณียกิจ
จดหมายเหตุลาลูแบร์ในประเทศไทยมีอยู่ 2
ฉบับ คือ ฉบับที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
ทรงพระนิพนธ์แปล โดยทรงแปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษ และฉบับแปลของสันต์ ท.โกมลบุตร
จากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศส
ความมุ่งหมายในการเขียน
เพ่งเล็งในด้านอาณาเขต ความอุดมสมบูรณ์ คุณภาพของดินในการกสิกรรม
ภูมิอากาศเป็นประการแรก ต่อมาเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีโดยทั่ว ๆ ไป
รวมถึงคำศัพท์หรือสรรพนามเรียกขานบุคคลต่าง ๆ
ที่ผู้คนในกรุงสยามใช้กันในขณะนั้นด้วย โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ
และเฉพาะเรื่องเฉพาะรายละเรื่องเกี่ยวกับรัฐบาลและศาสนาจะกล่าวในตอนท้าย
และได้รวบรวมบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับประเทศนี้ที่เจ้าตัวได้นำติดตัวมาด้วยไปผนวกไว้ตอนท้าย
และเพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักชาวสยามโดยแจ่มชัด
จึงได้เอาความรู้เกี่ยวกับอินเดียและจีนหลายประการมาประกอบด้วย นอกจากนั้นยังได้แถลงว่าจะต้องสืบเสาะให้รู้เรื่องราว
พิจารณาสอบถาม ศึกษาให้ถึงแก่นเท่าที่จะทำได้ ก่อนเดินทางไปถึงประเทศสยาม
ได้อ่านจดหมายเหตุทั้งเก่าและใหม่ บรรดาที่มีผู้เขียนขึ้นไว้เกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ
ในภาคพื้นตะวันออก ถ้าไม่มีสิ่งดังกล่าว ลาลูแบร์อาจใช้เวลาสักสามปี
ก็คงไม่ได้ข้อสังเกตและรู้จักประเทศสยามดี
อ้างอิง